shopping japan

ไปเที่ยวญี่ปุ่นซื้ออะไรดี ที่ไหนดีจากญี่ปุ่น ของฝากจากญี่ปุ่น

ปัจจุบันกระแสท่องเที่ยวญี่ปุ่นร้อนแรงมาก หลังจากที่ทางการญี่ปุ่นประกาศ Free Visa ให้กับคนไทย ทำให้คนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นกันอย่างถล่มทลาย อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เมื่อไปเที่ยวญี่ปุ่น สิ่งหนึ่งที่หนีไม่พ้นเลยสำหรับคนไทย คือการชอปปิ้ง ซื้อของฝาก สำหรับมือใหม่อาจนึกไม่ออกว่าสินค้าญี่ปุ่นมีอะไรน่าซื้อบ้าง อะไรราคาถูกกว่าบ้านเรา จะให้ซื้อมาหมดทุกอย่างคงขนมาไม่ไหวแน่ ต้องดูเป็นอย่างๆ ไป
วันนี้ผมรวมรวมมาเป็น 11 อันดับของน่าซื้อ ของฝากจากญี่ปุ่น โดยรวมรวมจาก Pantip และในเวบบอร์ดต่างๆ
1. ช๊อกโกแลต Royce, Kit-Kat, Pokky ขนมญี่ปุ่น
หนึ่งในของฝากยอดนิยมก็เป็นพวกขนม และ ช๊อกโกแลต เนื่องจากเก็บไว้ได้นาน ทานกันได้ทุกวัย ช๊อกโกแลตที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นต้องยกให้กับช๊อกโกแลตยี่ห้อ Royce เป็นช๊อกโกแลตคุณภาพดีผลิตที่เมืองซัปโปโร รสชาติเข้มข้น ไม่หวานมาก ห่อด้วย Package สวยงามสามารถซื้อไปเป็นของฝากได้เลย ราคาก็ไม่แพงกล่องละ 660 เยน, ขนมที่ขึ้นชื่ออีกอย่างของ Royce ก็จะเป็น Royce Potato Chip Chocolate แผ่นมันฝรั่งเคลือบช๊อกโกแลต
ในโตเกียวสามารถซื้อช๊อกโกแลต Royce ได้ที่สนามบินนาริตะ ตรงชั้น 4 โซน Mall Plaza และ ตรง Duty free บริเวณรอขึ้นเครื่องก็มีขายเหมือนกัน ส่วนนฮอกไกโดสามารถซื้อได้ที่ สนามบินชิโตเซ่ (Chitose airport)
ช๊อกโกแลต Royce
Yubari Melon Stream cake ขนมไส้เมลอน หอม อร่อย
KitKat หลากหลายรสชาติ
นอกจาก Royce แล้ว ช๊อกโกแลต KitKat ก็เป็นที่นิยม โดยเฉพาะรสชาเขียวที่ถูกปากคนไทยมาก วางขายเท่าไหร่ก็หมด แต่ปัจจุบัน KitKat รสชาเขียว หาค่อนข้างยากเนื่องจากไม่สามารถผลิตได้ชั่วคราว KitKat ที่ญี่ปุ่นจะมีหลายรสมาก และในแต่ละเมืองจะมีรสชาติพิเศษหาซื้อที่อื่นไม่ได้ เหมือนเป็น Limited Edition ของเมืองนั้น เช่นที่ Kawaguchiko ก็จะมี KitKat รส Strawberry Cheese cake
KitKat ที่ญี่ปุ่นราคาถูกกว่าบ้านเรา เหมาะสำหรับคนที่เพื่อนฝูงเยอะ ซื้อเอามาแจกกันได้ ราคาไม่แพง KitKat รสชาติธรรมดา สีแดง สีดำ สีชมพูสามารถซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เกต หรือ ร้านค้าทั่วไป ถ้าต้องซื้อหลายๆ รส แนะนำให้ไปซื้อที่ร้าน KitKat Chocolatory ในห้าง Seibu Department Store ย่าน Ikebukuro โตเกียว
ส่วนขนมขึ้นชื่อนอกเหนือจากช๊อกโกแลตก็มีมันฝรั่ง Potato Farm มีหน้าตาคล้ายมันฝรั่งทอด french fries ผลิตโดยบริษัทคาลบี้ ขายเป็นกล่อง และในกล่องก็มีถุงเล็กๆ 10 ถุง ขนมชนิดนี้ขายดีมากในฮอกไกโด
Glico Pocky หลายรส สามารถซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปเช่น Lawson, Family mart, 7-eleven ราคาไม่แพงกล่องละไม่เกิน 100 บาท
2. โตเกียว บานาน่า (Tokyo Banana)
Tokyo Banana ของขึ้นชื่อของญี่ปุ่น เป็นเนื้อเค้กชิฟฟ่อนเนื้อนิ่ม ใส่ใส้ครีมคัสตาร์ดรสกล้วยหอม มีกลิ่นคล้ายกล้วยหอม มีขายอยู่ทั่วทั้งญี่ปุ่น กล่องเล็ก 8 ชิ้นราคา 1,000 เยน และกล่องใหญ่ 12ชิ้น 1,500 เยน มีขายตามสถานีรถไฟใหญ่ๆ แต่ถ้าหาซื้อที่ไหนไม่ได้ที่สนามบินนาริตะก็มีขาย ราคาจะถูกกว่าข้างนอกนิดนึงเพราะปลอดภาษี
ร้านขาย Tokyo Banana สถานีรถไฟ JR Ueno
กล่องห่อด้วยกระดาษสวยงาม
3. โฟมล้างหน้า ครีมทาผิว เครื่องสำอาง มาส์กเต้าหู้
ข้อนี้สำหรับสาวไทยที่ไปชอปปิ้งญี่ปุ่น ก็มักจะซื้อเครื่องสำอาง มาร์คเต้าหู้ (Tofu Moritaya) ครีมต่างๆ ที่ made in Japan กลับมาใช้กัน อย่างหลอดสีฟ้า Shiseido Perfect Whip Cleansing Foam ขาย 398 เยน หรือประมาณหลอดละ 128 บาท แต่ถ้าซื้อในไทยจะตกหลอดละ 280 บาท ของบางอย่างที่ญี่ปุ่นถูกกว่าไทยเยอะ สินค้ายี่ห้อที่นิยมซื้อกันก็มี Hada Labo, Shiseido, DHC, SK II, Biore, DHC vitamin ร้านขายเครื่องสำอาง ครีม ราคาถูกจะเป็นร้าน Matsumoto KiYoshi เป็นร้านแนวคล้ายๆ Watson มีสาขาอยู่ทั่วญี่ปุ่น
ร้าน Matsumoto KiYoshi
Shiseido Perfect Whip Cleansing Foam, Hada Labo ยี่ห้อ Shiseido โดยรวมแล้วถูกกว่าไทยเกือบครึ่ง
4. เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นก็มีสินค้าแฟชั่นอยู่หลายแบรนด์ที่เป็นที่ยอมรับทั่วโลก อย่างเช่นเสื้อผ้ายี่ห้อ Play Comme Des Gracon ผมมักจะเรียกง่ายๆ ว่ายี่ห้อหัวใจ มีขายที่ Isetan ย่าน Shinjuku ยี่ห้อนี้ถูกกว่าไทยหลาย % เหมือนกัน นอกจากนั้นก็มีรองเท้า Onitsuka Tiger ที่บ้านเราฮิตเอามากๆ ที่ญี่ปุ่นขาย 12,500 เยน (ประมาณ 4,000 บาท) ราคาถูกกว่าที่ขายในไทย และก็มีกระเป๋าถือยี่ห้อ Issey miyake, Bao Bao, Pleats Please ที่เป็นลายพับคล้ายกระเบื้องในห้องน้ำ แหล่งขายสินค้าแฟชั่นในโตเกียวจะอยู่ที่ Shinjuku และ Ginza
เสื้อผ้ายี่ห้อ Uniqlo ไม่แนะนำให้ซื้อที่ญี่ปุ่นซักเท่าไหร่ถึงแม้ว่าจะเป็นแบรนด์ญี่ปุ่น เพราะแบบและราคาพอๆ กับที่ไทยเลย แนะนำให้ซื้อยี่ห้อ GU ซึ่งเป็นแบรนด์ลูกของ Uniqlo แต่ขายในราคาถูกมากๆ
ร้านเสื้อผ้า GU
เสื้อกันหนาว GU ตัวละ 1,990 เยน หรือประมาณ 640 บาท เท่ากับค่าอาหาร 1 วันเท่านั้น ถูกมาก!!!
ร้าน MUJI สาขา Shinjuku
เสื้อผ้าแบรนด์ Play Comme Des Gracon
5. ผลไม้ญี่ปุ่น
ผลไม้เมืองหนาวของญี่ปุ่นจะถูกกว่าบ้านเรา ที่แนะนำให้ลองทานก็มีส้ม ส้มญี่ปุ่นลูกจะนิ่ม น้ำเยอะ รสหวาน ขายที่ญี่ปุ่นโลละไม่ถึง 100 บาท เคยเห็น Tops Supermarket นำเข้ามาขายโลละ 380 กว่าบาท ผลไม้อีกอย่างที่อยากให้ลองคือสตรอเบอร์รี่ ลูกสีแดงเข้ม รสหวาน หอม อร่อยมาก
สตรอเบอร์รี่ ญี่ปุ่น
สตรอเบอร์รี่ แพคละ 580 เยน
6. อาหารสำเร็จรูป Noodle cup, ผงกระหรี่, เส้นราเมง ยากิโซบะ, วาซาบิ, ชาเขียว
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ขายกันทั่วโลกมีต้นตำรับจากญี่ปุ่น ยี่ห้อที่ขายดีที่สุดจะเป็น Nissin Cup Noodle ขายถ้วยละ 168 เยน มีหลายรสชาติให้เลือก อร่อยทุกรส และยังมีกุ้ง ไข่ หมู สารพัดโปรตีนที่อบแห้งใส่มาด้วย ไม่เหมือนบ้านเราที่มีแต่เส้น
สำหรับคนที่ชอบทำอาหารแนะนำให้ซื้อผงกระหรี่สำเร็จรูป เส้นราเมง ยากิโซบะ ในซุปเปอร์มาเก็ต กลับมาทำอาหารที่ไทย จะได้อาหารที่มีรสชาติแบบญี่ปุ่นแท้ๆ เลย ซุปเปอร์มาร์เก็ตในญี่ปุ่นมีอยู่หลายที่ส่วนมากจะอยู่ใกล้สถานีรถไฟสถานีใหญ่ ซุปเปอร์มาเก็ตที่คุ้นหน้าคุ้นตาเรามากที่สุดก็ต้องยกให้กับ Max Valu เพราะมีสาขาที่ไทยด้วย
Nissin Cup Noodle
ผงกระหรี่ญี่ปุ่น
และผู้ที่ชอบดื่มชาแนะนำให้ซื้อชาเขียวแบบซอง ไปชงดื่มที่บ้าน เพราะชาเขียวแท้ๆ มีต้นกำเนิดมาจากญี่ปุ่น ชาเขียวสามารถหาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป
7. ตุ๊กตาญี่ปุ่น Sanrio, San-x, Line
ญี่ปุ่นเมืองแห่งจินตนาการและการ์ตูน อย่าง Sanrio ก็มีต้นกำเนิดที่ญี่ปุ่น ตุ๊กตาที่กำลังฮิตในตอนนี้ก็มี หมี Rilakkuma, ตุ๊กตาค่าย San-x, ตุ๊กตา Line สำหรับร้านที่มีตุ๊กตาให้เลือกเยอะก็จะเป็นร้าน Kiddy Land ในโตเกียวมีสาขาที่ Harajuku และ Odaiba
ของฝากชนิดนี้เหมาะที่จะซื้อไปฝากเด็กๆ หรือสาวๆ รับรองถูกใจผู้รับอย่างแน่นอน
Kiddy land
8. Sex Toy
คนญี่ปุ่นเป็นคนที่ชอบคิดค้น ชอบประดิษฐ์ทุกอย่าง ไม่เว้นแต่ของเล่นผู้ใหญ่ อย่าง Sex toy มีของเล่นสารพัดแบบให้เลือกซื้อกัน คนญี่ปุ่นมีมุมมองเรื่องเพศว่าไม่ใช่เรื่องน่าอาย การเข้าไปซื้อ Sex toy ไม่ใช่เรื่องแปลก สามารถเข้าไปซื้อได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แหล่ง Sex shop ในโตเกียวจะอยู่ที่ Akihabara และใน Shinjuku ก็มีขายแต่ไม่มาก
9. เครื่องเขียน, ปากกาลบได้, ร่ม
ประเทศญี่ปุ่นมีสินค้าเครื่องเขียนที่หลากหลาย ทั้งแบรนด์ญี่ปุ่นเอง และของนอก อย่างเช่น Pilot, Pentel ของที่ขายจะมีดีไซน์สวยๆ น่าใช้ ของที่น่าซื้อตอนนี้ก็มีปากกาลบได้ เป็นปากกาที่คิดค้นโดยบริษัท Pilot ประเทศญี่ปุ่น ใช้หมึกชนิดพิเศษ เมื่อใช้ยางที่หัวปากกาถูกับกระดาษบนข้อความที่เขียนไปจะเกิดความร้อนประมาณ 50 องศา หมึกตัวนี้เมื่อได้รับความร้อนก็จะเปลี่ยนสี ทำให้ข้อความหายไป เมื่อก่อนปากกาลบได้หาซื้อในไทยยาก ต้องหาคนหิ้วเข้ามา ปากกาลบได้จึงเป็นของฝากที่เก๋ๆ ในราคาไม่แพง บางคนอาจจะยังไม่เคยใช้ด้วยซ้ำ
ราคาปากกาลบได้เริ่มต้นที่ประมาณด้ามละ 200 เยน หาซื้อได้ตามร้านเครื่องเขียนทั่วไป
นอกจากเครื่องเขียน ปากกา, ร่มญี่ปุ่น ก็เป็นของยอดนิยมที่คนนิยมซื้อกลับมา เนื่องจากมีราคาไม่แพง ใช้วัสดุดี แข็งแรงทนทาน และยังมีรูปแบบไม่เหมือนกับที่ขายในไทย อย่างเช่นร่มลายการ์ตูน หรือร่มใสกันฝน
10. เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กล้องถ่ายรูป นาฬิกา
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กล้องถ่ายรูป นาฬิกา ที่น่าซื้อส่วนมากจะเป็นพวก Limited Edition อย่างเช่นนาฬิกา G-shock บางรุ่น และเหตุผลอีกอย่างที่น่าซื้อของพวกนี้ เพราะของที่ขายในญี่ปุ่นส่วนมากจะเป็น Made in Japan ขายในประเทศเท่านั้นไม่ส่งออกไปประเทศอื่น ซึ่งจะเป็นของคุณภาพดี สิ่งที่ควรระวังในการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ควรเช็คดูว่าใช้ไฟ 220VAC ได้หรือไม่ และมีเมนูภาษาอังกฤษหรือเปล่า ส่วนโทรศัพท์มือถือ smartphone ไม่ควรซื้อโดยเด็ดขาดเพราะญี่ปุ่นใช้ระบบโทรศัพท์ไม่เหมือนบ้านเรา
11. เครื่องรางของขลัง แผ่นป้ายนำโชค
ตุ๊กตาดารุมะ สีแดง ตุ๊กตาแมวกวัก
ในญี่ปุ่นมีวัดดังๆ ศาลเจ้า มากมายไม่ว่าจะเป็นในโตเกียว เกียวโต หรือ โอซาก้า ในแต่ละวัดก็จะมีเครื่องลางของขลัง เป็นพวงกุญแจแผ่นป้ายขาย ทั้งแผ่นเล็กแผ่นใหญ่ ในราคาเริ่มต้นที่หลักร้อยเยน
สำหรับของที่คนไทยนิยมจะเป็น ตุ๊กตาแมวกวัก หรือที่เรียกกันว่ามาเนคิเนะโคะ? (Maneki Neko) จะมีทั้งกวักด้วยมือซ้าย และ กวักด้วยมือขวาจะมีความหมายไม่เหมือนกัน ถ้ากวักด้วยมือซ้ายจะหมายถึงหน้าที่การงาน ความรัก ส่วนมือขวาจะหมายถึงเงินทอง ทรัพย์สิน ถ้ากวักสองข้างก็รวมทั้งหมดที่ว่ามา
และที่นิยมอีกอย่างก็จะเป็น ตุ๊กตาดารุมะ (Daruma) เป็นตุ๊กตาตัวกลมสีแดง มีแต่หัว ไม่มีตัว ไม่มีแขน ขา ส่วนมากทำจากไม้หรือกระดาษ ตุ๊กตาชนิดนี้เวลาวางขายจะไม่วาดตามาด้วย แต่จะให้ผู้ซื้อเขียนตาเอง ในตอนอฐิษฐานขอพรจะเขียนตาข้างนึง เมื่อสมหวังจึงเขียนอีกข้างที่เหลือ
Vat refund : หลังจากชอปปิ้งกันอย่างจุใจแล้ว ลองเช็คดูว่ามีมูลค่าเกิน 10,001 เยน หรือไม่ ถ้าเกินก็สามารถทำเรื่อง Vat refund ได้อีก 5% หรือตามเรทภาษีของญี่ปุ่น ซึ่งสามารถสอบถามรายละเอียดได้กับทางร้านค้าที่ซื้อของ
ที่มา:http://www.emagtravel.com/archive/shopping-japan.html